Full Version การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน

pawana > Article

การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน Date : 2012-04-18 07:50:06

 

      ผลไม้ที่ใครๆก็รู้จักดี ลดโลกร้อนได้อย่างไร.....?

       ที่ผ่านมาคุณนำผลไม้สุกงอมที่เหลือจากการรับประทานรวมถึงเปลือกผลไม้ไปทิ้งใช่มั๊ย? รู้หรือไม่ว่านั่นเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดภาวะโลกร้อน เพราะคุณใช้ประโยชน์จากทรัพยากรไม่คุ้มค่า แถมยังเพิ่มปริมาณขยะบนโลกด้วย คุณอยากช่วยลดโลกร้อนและลดการใช้จ่ายเงินโดยไม่จำเป็นมั๊ยละ ไม่ยากเลย ก็เอาผลไม้ที่เหลือกินเหลือใช้นั้นมาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้ไง
       
เราสามารถนำผลไม้ที่แก่จัด ผลไม้สุกงอมที่เหลือจากการรับประทาน ผลไม้ที่ร่วงหล่นอยู่ในสวน รวมถึงเปลือกหรือเศษผลไม้ที่เหลือทิ้ง นำมาหมักเป็นน้ำหมักชีวภาพโดยเลือกใช้วัตถุดิบให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน ได้แก่

        1.น้ำหมักจากผลไม้รสเปรี้ยว 
           น้ำหมักจากผลไม้รสเปรี้ยวนี้มีคุณสมบัติเด่นคือมีความเป็นกรดสูงใช้สำหรับการทำความสะอาดในรูปแบบต่างๆได้ดี ผลไม้รสเปรี้ยวที่นิยมนำมาหมัก เช่น มะกรูด มะนาว มะเฟือง สับปะรด ส้มป่อย นำผลไม้ใดมาหมักก็จะเรียกชื่อน้ำหมักตามผลไม้นั้นๆ ถ้าจะนำมาใช้กับการทำความสะอาดร่างกาย ทำสบู่ ยาสระผม ผสมน้ำอาบ ก็เลือกใช้วัตถุดิบที่คุณภาพดี แต่ถ้าจะใช้เพื่อการซักล้างแบบช่วยลดโลกร้อนก็ควรเลือกวัตถุดิบที่คนส่วนใหญ่เขาทิ้งแล้ว(แต่ไม่เน่าเสีย ไม่สกปรก) เช่น เนื้อมะกรูดที่นำผิวไปทำพริกแกงแล้ว(ขอได้จากร้านที่ทำพริกแกงขาย) ผลมะเฟืองที่สุกงอมหรือถูกแมลงเจาะทำลายแล้วร่วงเกลื่อนอยู่ใต้ต้น เปลือกส้มหรือเปลือกมะนาวที่คั้นน้ำไปใช้แล้ว เปลือกสับปะรด เปลือกส้มโอ(ขอได้จากแม่ค้า) ซึ่งน้ำที่ได้จากหมักผลไม้รสเปรี้ยวนี้จะมีฤทธิ์เป็นกรดจัด มีค่าpH ประมาณ 3 -3.5 กรดที่ได้นี้มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันหรือขจัดคราบสกปรกต่างๆได้ดีและจะมีกลิ่นหอมของผลไม้หรือกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในเปลือกของผลไม้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณอื่นๆตามชนิดของผลไม้ที่นำมาหมัก       
        นอกจากนี้ จุลินทรีย์กลุ่มสร้างสรรค์(EM)ที่อยู่ในน้ำหมักชีวภาพ จะไปช่วยยับยั้งการทำงานของจุลินทรีย์กลุ่มทำลาย ทำให้ช่วยลดปัญหาต่างๆในชีวิตประจำวันที่เกิดจากเชื้อโรคได้ด้วย แถมประหยัดเงินไม่ต้องซื้อของใช้ ไม่ต้องเสียค่ากำจัดขยะ ประหยัดแรงงานและเวลาในการทำความสะอาด  และน้ำทิ้งจากการซักล้างต่างๆ จะทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าน้ำที่ซักล้างด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ทำจากสารเคมี 

 ส่วนผสม   1. ผลไม้รสเปรี้ยว(แก่จัดหรือสุก-ใช้ทั้งเปลือก)                  3    กก.
             2. น้ำตาลทรายธรรมชาติ                                        1    กก. 
             3. น้ำสะอาด                                                    10  ลิตร
             4. หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ(EM) ชนิดน้ำ ปริมาณเล็กน้อย 

      การหมักผลไม้บางชนิดไม่ต้องใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ก็ได้ เช่น มะเฟืองสุก สับปะรดสุกงอมทั้งเปลือก เปลือกสับปะรด มะกรูด องุ่น เพราะผลไม้พวกนี้จะมีจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ(EM)อยู่ในตัวเองแล้ว   
      ถ้าไม่มีหัวเชื้อจุลินทรีย์EM จะใช้นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต(มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส 1 ขวด ) แป้งข้าวหมาก 1 ก้อน หรือน้ำดองผัก-ผลไม้ที่กลิ่นดี 1/2 แก้วแทนได้

 วิธีทำ
        ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำสะอาดในถังพลาสติก คนให้น้ำตาลละลาย จากนั้นหั่นผลไม้ตามขวางให้เป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงในถังที่ละลายน้ำตาลไว้  ควรเลือกใช้ถังขนาดที่เมื่อใส่วัตถุดิบทั้งหมดแล้วเหลือที่อากาศเพียงเล็กน้อย(เหลือที่ประมาณ 1 ใน 10 ส่วน) แล้วปิดฝาถังให้สนิท หมักไว้ประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าจะนำน้ำหมักนั้นมาใช้ประโยชน์อะไร  การหมักในระยะ 1-2 สัปดาห์แรกจะเกิดฟองอากาศขึ้นมาจำนวนมาก มีฝ้าสีขาวขึ้นที่ผิวด้านบนน้ำหมัก และมีกลิ่นหอมคล้ายไวน์ นั่นถือว่าการหมักได้ผลดี 
       แต่ถ้าที่ผิวหน้ามีราสีดำขึ้นและมีกลิ่นเหม็นเน่า แสดงว่าเกิดการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ตัวร้ายไม่ควรนำไปใช้งาน ถ้านำไปเททิ้งที่ใดที่นั่นก็จะมีกลิ่นเหม็นเน่ามากๆไปนานเลย กลิ่นเหมือนส้วมแตก ถ้าเทบนลานปูนซีเมนต์ที่ถูกแสงแดดจัดๆส่องตลอดวันก็จะหายเหม็นเร็วขึ้นหน่อย แต่ก็มีบางคนนำไปใช้กำจัดวัชพืชโดยใช้ชนิดเข้มข้นฉีดพ่นไปบนใบวัชพืช   ใบวัชพืชจะแห้งเหี่ยวเฉาตาย แต่ขอบอกว่า"เหม็นมาก"และเหม็นนานกว่าจะหาย และเมื่อวัชพืชตายแล้วต้องฉีดพ่นซ้ำด้วยEMเพื่อปรับสภาพแวดล้อมให้ฟื้นกลับคืนมา 

    

      ถ้าจะนำน้ำหมักชีวภาพไปใช้งานโดยตรงเพื่อทำความสะอาดและใช้ประโยชน์จากการทำงานของจุลินทรีย์กลุ่มสร้างสรรค์(เช่น นำไปถูพื้น ล้างพื้น โดยไม่นำไปผสมในผลิตภัณฑ์)ก็ไม่ต้องหมักนานถึง 3 เดือน  เริ่มนำมาใช้งานได้หลังจากหมัก 1-2 สัปดาห์หรือเห็นฟองจำนวนมากผุดขึ้นมาจากน้ำหมัก แสดงว่าจุลินทรีย์ชนิดดีกำลังทำงานอย่างเต็มที่ 
      แต่ถ้าจะนำน้ำหมักฯไปผสมเพื่อทำผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน(ทำสบู่ น้ำยาสระผม น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน)จะต้องหมักไว้อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้กระบวนการหมักสิ้นสุดอย่างสมบูรณ์ หากหมักไม่ถึง 3 เดือน กระบวนการหมักยังดำเนินต่อไป เมื่อผสมเป็นผลิตภัณฑ์แล้วเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ระยะหนึ่งจะทำให้กลิ่นของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไปไม่น่าใช้ (จะมีกลิ่นคล้ายผลไม้ดอง) 
     น้ำหมักผลไม้บางสูตรโดยเฉพาะที่จะใช้กับผิว เช่น น้ำหมักชีวภาพมะเฟือง(ที่จะใช้ทำโลชั่นมะเฟืองหรือโทนเนอร์มะเฟือง) ต้องหมักนานถึง 1 ปี เพื่อให้กรดอินทรีย์แตกตัวเป็นอนุภาคที่เล็กที่สุด ซึ่งมีหลายคนบอกว่าเมื่อใช้แล้วจะให้ผลดีกว่าน้ำหมักที่หมักในระยะเวลาสั้นๆ 

น้ำหมักชีวภ
าพจากผลไม้รสเปรี้ยวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้หลายอย่าง  เช่น
         - ใช้ล้างผักผลไม้ 
           
นำน้ำหมักชีวภาพผสมน้ำ (อัตรา1ส่วน ต่อน้ำสะอาด 20 ส่วน) ใช้ล้างผักผลไม้ แล้วแช่ไว้ประมาณ 15 นาที จะช่วยล้างสารพิษตกค้างในผักผลไม้  ช่วยให้ผักกรอบขึ้น สดขึ้น และยืดอายุการเก็บรักษา(แต่ถ้าแช่นานเกินไป ผักจะเน่าเร็ว) 
        - ใช้ถูพื้น
           นำน้ำหมักชีวภาพผสมน้ำ (อัตรา ส่วน ต่อน้ำสะอาด 50 ส่วน) ใช้ทำความสะอาดเช็ดถูพื้น จะสลายคราบสกปรกได้ดี  พื้นสะอาด  คราบสกปรกจะไม่เกาะพื้นง่าย ห้องจะไม่มีกลิ่นเหม็นอับ
        - ใช้ผสมกับน้ำเช็ดกระจก
           นำน้ำหมักชีวภาพผสมน้ำ (อัตรา 1ส่วน ต่อน้ำสะอาด 50 ส่วน) จะสลายคราบสกปรกได้ดี กระจกจะใสสะอาดเงางาม ฝุ่นผงไม่เกาะง่าย  และการทำความสะอาดกระจกครั้งต่อๆไปจะง่ายขึ้น     
        - ใช้ผสมกับน้ำทำความสะอาดห้องน้ำและเครื่องสุขภัณฑ์
           นำน้ำหมักชีวภาพผสมน้ำ (อัตรา 1ส่วน ต่อน้ำสะอาด 20 ส่วน) จะสลายคราบสกปรกได้ดี เครื่องสุขภัณฑ์จะสะอาด เงางาม คราบสกปรกไม่เกาะง่าย และการทำความสะอาดครั้งต่อๆไปจะง่ายขึ้น     
        - ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาซักผ้า(10 %) หรือผสมกับน้ำซักผ้าโดยตรง(อัตรา 1ส่วน ต่อน้ำสะอาด 5 ส่วน)
           แช่ผ้าไว้อย่างน้อย 30 นาที ผ้าจะสะอาดขึ้น ถึงแม้ว่าจะแช่ผ้าทิ้งไว้นานข้ามคืน น้ำที่แช่ผ้าจะไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนกับการใช้ผงซักฟอกทั่วๆไป ผ้าที่แห้งแล้วจะไม่มีกลิ่นอับ เสื้อผ้าที่ใส่แล้วจะมีกลิ่นเหม็นน้อย    
        - ใช้ผสมกับน้ำสำหรับล้างจานชามที่ไม่มีคราบไขมัน 
          (อัตรา 1ส่วน ต่อน้ำสะอาด 20 ส่วน) ล้างภาชนะให้สะอาดได้ง่ายขึ้น กำจัดเชื้อโรคและเชื้อรา     
       
ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาล้างจาน(10 %) จะช่วยสลายคราบสกปรกและไขมันได้ดีขึ้น ล้างภาชนะให้สะอาดได้ง่ายขึ้น ช่วยดับกลิ่นคาว กำจัดเชื้อโรคและเชื้อรา     
        - ใช้เป็นส่วนผสมในยาสระผม ครีมนวดผม
          
ใช้น้ำหมักชีวภาพผสมในยาสระผมหรือครีมนวดผม(10 %) จะทำให้ผมสะอาด นุ่มสลวย ช่วยลดหรือยับยั้งการเกิดรังแค
        - ใช้เป็นส่วนผสมในสบู่เหลวอาบน้ำ
         
ใช้น้ำหมักชีวภาพผสมในสบู่อาบน้ำ(3-5 %) จะทำให้ผิวสะอาดชุ่มชื้น ไม่แห้งกราน ช่วยลดสิว ลดฝ้า ลดกลิ่นตัว ช่วยบำบัดรักษาโรคผิวหนังบางชนิด

      สรรพคุณเด่นของน้ำหมักผลไม้เปรี้ยวแต่ละชนิด 
         - น้ำหมักชีวภาพเนื้อมะกรูด(ใช้ผิวไปทำน้ำพริกแกงแล้ว)ใช้สำหรับซักผ้า ล้างจาน ล้างสุขภัณฑ์ ถูพื้น เช็ดกระจก ล้างห้องน้ำ มีคุณสมบัติ สลายไขมันและคราบสกปรกโดยทั่วไปได้ดี มีกลิ่นหอมของมะกรูด
         - น้ำหมักชีวภาพมะกรูดทั้งลูก(ทั้งเนื้อทั้งเปลือก) นิยมใช้ผสมในน้ำยาสระผม มีคุณสมบัติ สลายไขมันและคราบสกปรกบนหนังศีรษะได้ดีและบำรุงเส้นผมให้เงางาม ลดรังแค มีกลิ่นหอมของมะกรูดมาก
         - น้ำหมักชีวภาพมะเฟือง มีคุณสมบัติเด่นคือ เมื่อใช้ผสมในสบู่หรือผสมน้ำสำหรับล้างหน้า อาบน้ำ  คราบไครบนผิวหนังจะอ่อนตัวและหลุดออกง่ายขึ้น จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าได้ดี ช่วยลดสิว ทำให้ฝ้าจางลง ช่วยกระชับรูขุมขน ลดกลิ่นตัว 
         - น้ำหมักชีวภาพฝักส้มป่อย มีคุณสมบัติเด่นคือ เมื่อใช้ผสมน้ำล้างหน้า อาบน้ำ จะช่วยทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น เมื่อใช้ผสมในครีมนวดผม มีคุณสมบัติ บำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย
         - น้ำหมักชีวภาพผลมะคำดีควาย มีคุณสมบัติเด่นคือ เมื่อใช้ผสมน้ำล้างหน้า อาบน้ำ จะช่วยลดผดผื่นคัน บรรเทากลากเกลื้อน เมื่อผสมในน้ำยาสระผม มีคุณสมบัติ ช่วยลดรังแค รักษาอาการชันตุ

2. น้ำหมักจากผลไม้รสฝาด 
           
ผลไม้ที่มีรสฝาด
เช่น มังคุด ทับทิม ลูกหว้า เปลือกมังคุด เปลือกทับทิม  จะมีกรดอินทรีย์ วิตามินซี ธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสารแทนนิน  น้ำหมักที่ได้จะมีฤทธิ์เป็นกรดและมีความฝาด ซึ่งความฝาดนี้จะมีสรรพคุณในการสมานแผลและยับยั้งหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์จำพวกเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้ จึงสามารถนำน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้รสฝาดนี้ไปผสมน้ำอาบหรือผสมสบู่ล้างหน้า-อาบน้ำ จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสิวหรือแผลพุพองตามผิวหนัง ช่วยลดกลิ่นตัวได้ 
นอกจากนี้ยังนำไปใชในการป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิดได้ด้วย
    

ส่วนผสม      1. ผลไม้รสฝาด (แก่จัด-ใช้ได้ทุกส่วน)                    3    กก.
               2. น้ำตาลทรายธรรมชาติ หรือกากน้ำตาล                1    กก. 
               3. น้ำสะอาด                                              10    ลิตร
               4. หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ(EM) ชนิดน้ำ ปริมาณเล็กน้อย 

         อัตราส่วนและวิธีการทำน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้รสฝาดคล้ายกับการทำน้ำหมักจากผลไม้รสเปรี้ยว   แต่ถ้าจะนำไปใช้ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช  ควรเปลี่ยนส่วนผสมจากน้ำตาลทรายธรรมชาติมาเป็นกากน้ำตาลเพื่อลดต้นทุนการผลิต
     
 วิธีทำ 
         ผสมน้ำตาลทรายหรือกากน้ำตาลกับน้ำสะอาดในถังพลาสติกให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นหั่นผลไม้ให้เป็นชิ้นเล็กๆ (สำหรับลูกหว้าควรตำให้เมล็ดแตก เพราะความฝาดจะอยู่ที่เมล็ดมากกว่า) ใส่ผลไม้ลงในถังที่ละลายน้ำตาลไว้ เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ(EM)ลงไปเล็กน้อย(ถ้าเคยหมักน้ำหมักชีวภาพมะเฟืองมาแล้ว อาจตักแผ่นวุ้นจากผิวหน้าน้ำหมักฯมะเฟืองมาใส่ก็ได้) ควรเลือกใช้ถังขนาดที่เมื่อใส่วัตถุดิบทั้งหมดแล้วเหลือที่อากาศเพียงเล็กน้อย(เหลือที่ประมาณ 1 ใน 10 ส่วน) แล้วปิดฝาถังให้สนิท หมักไว้อย่างน้อย 3 เดือน การหมักในระยะ 1-2 สัปดาห์แรกจะเกิดฟองอากาศขึ้นมาจำนวนมาก มีฝ้าสีขาวขึ้นที่ผิวด้านบนน้ำหมัก และมีกลิ่นหอมคล้ายไวน์ นั่นถือว่าการหมักได้ผลดี

การนำน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้รสฝาดไปใช้ประโยชน์
        - ใช้ผสมน้ำล้างหน้า-อาบ
         
ใช้น้ำหมักชีวภาพผสมน้ำ 1 ส่วน ต่อน้ำ 30-50 ส่วน จะช่วยลดสิวอักเสบ ลดกลิ่นตัว ช่วยบำบัดและรักษาโรคผิวหนังบางชนิด
        - ใช้เป็นส่วนผสมในสบู่เหลวอาบน้ำ
         
ใช้น้ำหมักชีวภาพผสมในสบู่อาบน้ำ-ล้างหน้า (3-5 %) จะทำให้ผิวสะอาด ช่วยอาการอักเสบของสิว ช่วยลดกลิ่นตัว ช่วยบำบัดและรักษาโรคผิวหนังพุพองบางชนิด
        - ใช้ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
         
ใช้น้ำหมักชีวภาพ 30-50 ซี.ซี. ผสมน้ำ 20 ลิตร แช่เมล็ดพันธุ์พืชก่อนปลูก ช่วยป้องกันเมล็ดพันธุ์หรือต้นกล้าเน่าที่มีสาเหตุจากเชื้อรา หรือฉีดพ่นให้ต้นพืช ฉีดพ่นในแปลงปลูก เป็นประจำ หรือปล่อยไปกับน้ำที่ไขเข้าในนา จะช่วยป้องกันโรค ที่มีสาเหตุจากเชื้อราบางชนิดได้

3. น้ำหมักผลไม้รวม
           
การหมักผลไม้ที่มีรสหวานมันหรือผลไม้ที่มีเนื้อสีเหลือง-ส้ม-แดง โดยใช้ทั้งเปลือกและเมล็ด 
เช่น กล้วยสุก มะละกอสุก ฟักทองแก่จัด มะม่วงสุก ขนุนสุก ทุเรียนสุก ฯลฯ ใช้ผลไม้หลายๆชนิดหมักรวมกัน  น้ำหมักที่ได้จะมีคุณสมบัติเป็นฮอร์โมนบำรุงดอกและผล
 
           
ส่วนผสม   1. ผลไม้รสหวานมันหลายๆชนิด (แก่จัด-สุกงอม-ใช้ได้ทุกส่วน)      3    กก.
            2. กากน้ำตาล                                                          1    กก. 
            3. น้ำสะอาด                                                           10   ลิตร
            4. หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ(EM)

วิธีทำ 
        หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้าผลไม้กับกากน้ำตาลและหัวเชื้อจุลินทรีย์ ใส่ลงในถังพลาสติก ควรเลือกใช้ถังขนาดที่เมื่อใส่วัตถุดิบทั้งหมดแล้วเหลือที่อากาศเพียงเล็กน้อย(เหลือที่ประมาณ 1 ใน 10 ส่วน) จากนั้นปิดฝาถังให้สนิท หมักไว้จนครบ 7 วัน จึงเปิดฝาถัง เติมน้ำสะอาด 10 ลิตร คนส่วนผสมให้เข้ากัน  แล้วปิดฝาถังให้สนิทหมักต่อไปและต้องหมักไว้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน จึงจะนำมาใช้ได้ เพื่อให้ปูนขาวที่อยู่ในกากน้ำตาลสลายตัวจนหมดหรือยิ่งหมักนานๆยิ่งดี ถ้ากากน้ำตาลในน้ำหมักฯยังสลายตัวไม่หมดแล้วนำน้ำหมักฯมาใช้กับพืชติดต่อกันในระยะเวลาหนึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อพืชได้ เพราะจะทำให้หน้าดินแข็งหรืออาจมีศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและมดมาทำลายพืชได้ 

การนำน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้รวมไปใช้ประโยชน์
        
        - ใช้บำรุงต้นพืชจำพวกไม้ดอกและไม้ผล
         
ใช้น้ำหมักชีวภาพ  1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ต้นพืชหรือฉีดพ่นในแปลงปลูกเป็นประจำ จะช่วยบำรุงให้พืชออกดอกออกผลดี ผลไม้รสชาติอร่อย
 

 


ความคิดเห็น

Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : bodin Date : 1356943827

หมักมะเฟืองแล้วเกิดแอลกอฮอลล์ไม่มีรถเปรี้ยวจะทำอย่างไรครับ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : น้องฝ้าย Date : 1378783829

คือหนูอยากทำโครงงานเรื่องน้ำยาเช็ดกระจกอ่ะค่ะ. หนูสามารถจะใช้ผลไม้อะไรได้บ้างค้ะ. ที่ยังไม่ค่อยมีคนทำอ่ะค่ะ. เพราะหนูโครงงานนี้คุณครูของหนูเน้นว่าอย่าให้ซ้ำกับโครงงานอื่น. ที่หนูไว้คร่าวๆว่าจะทำจากเปลือกส้มโอ แต่ไม่รู้ว่าสามารถทำได้รึเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่ามีคนเคยทำรึยังด้วยค่ะ.  อย่าลืมตอบหนูด้วยน่ะค่ะ nongstunk@hotmail.com


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1379310384

ตอบน้องฝ้าย
              ผลไม้ที่จะนำมาทำน้ำหมักฯ ใช้ได้ทุกชนิด ยิ่งเป็นผลไม้ที่มีความเป็นกรดจะทำความสะอาดได้ดีมาก เลือกที่หาง่ายใกล้ๆตัว หรือเป็นของเหลือทิ้งที่ไม่ต้องซื้อยิ่งดี ควรดูว่าในท้องถิ่นมีวัตถุดิบอะไรที่หาได้ง่าย แต่น้ำหมักฯจากเปลือกส้มโอมีคนเคยทำแล้วค่ะ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : เจนนิศา Date : 1386215219

คือหนูจะทำโครงงานอ่ะค่่ะ เรื่องผักกรอบจากน้ำหมัก แต่หนูอยากทราบว่าถ้าเราหมักพวกสัปปะรด มะกรูด มะนาว หมักรวมกันได้มั้ยค่ะ? หรือ ต้องหมักแยกเป็นอย่างๆ แล้วน้ำ10ส่วนหมายถึงกี่โลคะ ? แล้วต้องใช้เวลาหมักกี่เดือนอ่ัะค่ะถ้าจะเอามาล้างผัก ? ช่วยตอบหนูหน่อยนะค่ะ หนูต้องไปทำเป็นโครงงานจริงๆ ขอบคุณล่วงหน้าคะ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1386481658

ตอบหนูเจนนิศา ที่จะทำโครงงานเรื่องผักกรอบจากน้ำหมัก

1. สามารถนำสับปะรด มะกรูด มะนาว หมักรวมกันได้ค่ะ แต่ถ้าจะทำโครงงานแบบทดลอง อาจลองทำหลายๆสูตร คือทั้งสูตรที่แยกหมักเป็นอย่างๆ และสูตรรวม แล้วเปรียบเทียบผลที่ได้
2. ที่ถามว่าน้ำ10 ส่วน หมายถึงกี่โล?  ตอบให้เข้าใจง่ายๆนะคะ ถ้าหนูจะทำน้อยๆ ก็ใช้ผลไม้ 300 กรัม น้ำตาล 100 กรัม น้ำ 1,000 กรัม(หรือ 1 กิโลกรัม)
อยากทำมากกว่านี้ก็เพิ่มอัตราส่วนไปเรื่อยๆ
3. ถ้าใช้ล้างผัก จะเริ่มนำมาใช้ได้ตั้งแต่หมักไปได้ 3 - 4 สัปดาห์ แต่ถ้าจะให้ดีต้องหมัก 3 เดือน กระบวนการหมักจะสมบูรณ์


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : เจนนิศา Date : 1387807166

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะค่ะ ครูป้า ตอนนี้หนูเริ่มทำน้ำหมักแล้วค่ะ


แต่หนูกำลังเครียดเรื่องการทดลองว่าจะเอาอะไรเป็นหลักฐานหรือตรวจสอบว่าน้ำหมักสามารถชะล้างสารพิษได้จริง ครูป้าพอจะรู้วิธีตรวจสอบสารพิษในผักแบบง่ายๆหรือวิธีที่แสดงว่าน้ำหมักนั้นสามารถช่วยลดสารพิษตกค้างในผักได้จริงมีมั้ยค่ะ ถ้าครูป้ารู้ช่วยตอบกลับด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ



Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : LK Date : 1392819271

อยากทราบว่ามีงานวิจัยที่ทำเกี่ยวกับน้ำหมักพวกนี้ไหมค่ะ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : papa Date : 1394346400

คือผมอยากทำผลิตภัณฑ์ จุลินทรีย์เพื่อส่งขายต่างประเทศเช่น แชมพูสระผม,เจลอาบน้ำ ผมจะทำได้ยังไงคับ แนะนำได้ไหมคับ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1394704069

ตอบคุณ papa
             การทำผลิตภัณพ์ เช่น แชมพูสระผม เจลอาบน้ำ ฯลฯ เพื่อการจำหน่าย จะต้องได้มาตรฐานตาม พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง ให้ศึกษาเรื่องนี้ก่อนนะคะ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : จรรยา Date : 1395818075

ขอบคุณที่เสนอสาระดีๆ ค่ะ แต่มีเรื่องรบกวนถาม ดังนี้


1. ถ้าจะทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อการกินเป็นยา หรือนำไปทำน้ำยาเอนกประสงค์ จำเป็นต้องใช้เฉพาะน้ำตาลทรายแดง หรือจะใช้กากน้ำตาล อย่างไหนดีกว่ากัน ?


2. ดิฉันทำน้ำหมักจากผลไม้เท่าที่หาได้ แต่ไม่ได้เติมEM  ถามว่า น้ำหมักที่ได้จะเหมือนกันกับที่เติม EM หรือไม่ ?


                                            ขอบตุณมากค่ะ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1396274267

ตอบคุณจรรยา


            1 การทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อการกินเป็นยา ควรใช้น้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดง ถ้าจะนำไปทำน้ำยาเอนกประสงค์ น้ำหมักที่หมักด้วยน้ำตาลทรายแดง สีจะออกเหลือง ทำผลิตภัณฑ์จะดูน่าใช้กว่า แต่ถ้าใช้กากน้ำตาล สีจะออกน้ำตาลเข้ม ไม่น่าใช้ โดยเฉพาะถ้าจะนำไปซักผ้า ผู้ใช้อาจกังวลว่าจะไปทำให้ผ้าหมองคล้ำ


            2 ผลไม้บางชนิด(เช่น มะเฟือง สับปะรด องุ่น)ที่ปลูกด้วยวิธีที่สะอาด พื้นที่สะอาด ไม่ใช้สารเคมี หรือใช้สารเคมีน้อย  จะมีจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ(EM)ในธรรมชาติอาศัยอยู่บริเวณเปลือกผลไม้ การหมักก็ไม่จำเป็นต้องเติมEM ได้ หรือถ้าเคยหมักน้ำหมักมาแล้วก็แบ่งมาเป็นหัวเชื้อได้ แต่ถ้าในผลไม่ไม่มี EM เลย หรือมีปริมาณน้อย ก็จะมีโอกาสทำให้น้ำหมักเน่าเสียจากจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีได้ง่าย (แนะนำให้อ่านเรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ จะเข้าใจง่ายขึ้น)


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : เบญจวรรณ Date : 1397317450

เรียนถาม คุณครูป้าคะ


คือดิฉันอยู่เมืองนอก เพิ่งจะอ่านเจอ ไม่มีคนให้ถามค่ะ ก็อาศัยความรู้จากในเน็ตค่ะ  ขณะนี้ก็ได้เริ่มหมักไปสามอาทิตย์แล้วค่ะ ตามผลไม้ที่พอจะหาได้ คือแอปเปิ้ล และสมุนไพรที่ซื้อได้จากร้านเอเซียค่ะ คือมะระขี้นก ขมิ้น และกระชายค่ะ ราคาค่อนข้างแพงค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเริ่มหมักอะไรดี   รบกวนขอคำแนะนำผักหรือผลไม้ที่นี่ ยุโรบ มีประโยชน์ในหลายด้านด้วยค่ะ  ตอนนี้ถดูใบไม้ผลิ อีกสองสามเดือนจะซั้มเมอร์ ดิฉันได้อ่านเจอข้างบนเรื่องการหมักผลไม้รสฝาด อยากจะหมักมังคุด แต่ว่า หาไม่ได้ค่ะ ก็คิดจะไปซื้อทับทิมที่ร้านแขกเตอรกีค่ะ เขามีลูกใหญ่มาก ขายเป็นกก เลยค่ะ  หมักทับทิม ให้ผลประโยชน์เช่นเดียวกับมังคุดหรืไม่คะ และหมักต้องทั้งเม็ดและเปลือกหรือปล่าวคะ  ขอบคุณข้อมูลที่ดีๆ ขออนุญาติเก็บบันทึกไว้เป็นความรู้ และขอรบกวนคุณครูป้านะคะ ขอบคุณค่ะ



Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1397489317

ตอบคุณเบญจวรรณ
               ก่อนลงมือหมักต้องคิดว่าเราจะนำน้ำหมักไปใช้ทำอะไร ผลไม้หรือพืชสมุนไพรแต่ละชนิด แต่ละส่วน (ใบ ดอก ผล ต้น ราก ความอ่อน-แก่) จะมีสรรพคุณต่างกัน ควรเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นจะทั้งสดใหม่ และราคาถูก ถ้าจะหมักทับทิมเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากสารแทนนินด้วยก็ใช้ทั้งเปลือก(เปลือกทับทิม เปลือกมังคุด มีแทนนิน รสฝาด มีคุณสมบัติช่วยสมานแผล แต่ก่อนใช้ควรทดลองน้อยๆก่อน หรือถ้าใช้แล้วมีอาการแพ้ต้องเลิกใช้ เพราะเคยอ่านเจอรายงานการวิจัยพบว่ามีบางคนที่แพ้สบู่เปลือกมังคุด ทำให้เป็นสิวเพิ่มขึ้นหรือมีการอักเสบมากกว่าเดิมค่ะ



Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : เบญจวรรณ Date : 1398185699

กราบขอบพระคุณค่ะ  ที่ดลใจให้อยากจะหมักคือลูกสาวค่ะ เขาเป็นภูมิแพ้ผิวหนังตามข้อพับขาและแขน พอหน้าหนาวเขาจะเกาจนบางทีเห็นแล้วสงสารค่ะ ทาครีมก็ไม่ดีขึ้น ลองมาหมดแล้วค่ะ จนมาเจอน้ำหมักเข้าโดยเฉพาะเว็บของอาจารย์ที่ให้ข้อมูลละเอียด ถ้าเป็นมังคุดคงจะหมดหวัง แต่ถ้าเป็นทับทิม พอจะหาได้ตอนหน้าร้อน ร้านแขกเตอรกีจะขายในราคาที่ไม่แพง ก็พอจะหาได้ค่ะ  ก็เลยอยากจะลองค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เบญจะลองทีละนิดไปก่อน แต่ว่า ต้องรออีกเดือนสองเดือน ถึงจะมีทับทิมขายค่ะ ตอนนี้อาจจะมีบ้าง แต่ราคายังแพงและมีไม่เยอะค่ะ กราบขอบพระคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ


เบญจวรรณ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1398522007

ตอบคุณเบญจวรรณ
           ที่บอกว่าลูกสาวเป็นภูมิแพ้ผิวหนังโดยเฉพาะตามข้อพับขาและแขน ยิ่งหน้าหนาวจะคันมาก ทาครีมก็ไม่ดีขึ้น ลองมาหมดแล้วนั้น อยากทราบว่าน้องได้รับประทานอาหารที่ใส่ผงชูรสหรือเปล่า (หรืออาหารที่มีโมโนโซเดียมกลูตาเมทเป็นส่วนผสม) เพราะครูป้าได้กับตัวเอง คือเริ่มแรกมีอาการเป็นผื่นคันตามข้อพับ ผื่นไม่กว้างมากแต่คันมาก ทั้งกินยาและทายาก็ไม่หาย เป็นอยู่ประมาณ 5-6 ปี จนเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา อาการคันกำเริบมากขึ้น มีผื่นคันขึ้นทั้งตัว ใบหน้าและศีรษะ บริเวณข้อพับหรือที่ผิวอ่อน ๆ ยิ่งคันมาก คันทั้งวันทั้งคืน นอนก็ไม่หลับ กินยาแก้ภูมิแพ้ วันละ 3 เวลา และทายาอย่างแรงก็ไม่ดีขึ้น เป็นหนักมากอยู่ประมาณ 1 ปี จึงมาพบสาเหตุของอาการคันโดยบังเอิญ คือพบว่าตัวเองเป็นอาการแพ้พิษผงชูรส หรือ โรคไชนิส เรสเตอรอง ซินโดรม ตอนนี้หายคันแล้วค่ะเพราะทำอาหารรับประทานเอง ไม่ใส่ผงชูรส


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : Date : 1406377932

ทำเป็นน้ำยาล้างจานเก็บได้สููงสุดกี่เดือนค่ะ



Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1406459925

ตอบใครก็ไม่รู้ ที่ถามว่าทำเป็นน้ำยาล้างจานเก็บได้สููงสุดกี่เดือน
                 คำตอบคือ
ไม่เคยทดสอบว่าเก็บได้นานสูงสุดกี่เดือน เพราะตามปกติแต่ละครั้งครูป้าจะใช้น้ำหมักชีวภาพจากผลไม้รสเปรี้ยวผสมน้ำยาอเนกประสงค์โดยใช้ N 70 ครั้งละ  1 กิโลกรัม ได้น้ำยา 1 ถังใหญ่ แล้วแบ่งใส่แกลลอนไว้เป็นน้ำ้ยาล้างจาน(ไม่ใส่น่ำหอม) และทำน้ำยาซักผ้าโดยเติมน้ำหอมกลิ่นตามชอบ ใช้หมดแล้วก็ทำใหม่  แต่มีน้ำยาที่ทำไว้เป็นตัวอย่างสำหรับสอนนักเรียน(ใส่ขวดน้ำดื่ม พลาสติกใส ปิดฝาสนิท) นานเป็นปีแล้วกลิ่นยังเหมือนเดิม แต่สีเข้มขึ้นเล็กน้อย 


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ภัทรินทร์ Date : 1407322261

ขอบคุณครูป้าสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ. อยากสอบถามเพิ่มเติมค่ะ


1ถ้าเราใช้ส้ม ทำน้ำหมัก ต้องใส่จุลินทรีย์มั้ยค่ะ แล้วส้มใช้ทั้งเปลือกเลยมั้ยค่ะ


2แล้วเอาจะใส่จุลินทรีย์อัตราส่วนเท่าไหร่  ถ้าทำน้ำหมักขนาดทดลองที่ใช้น้ำ 1 ลิตรค่ะ


3จุลทรีย์ได้มาจากอะไรบ้างค่ะที่เราหาได้ง่ายๆค่ะ


4แร้วนอกจากติดต่อครูป้าทางเวปนี้แล้วมี ช่องทางไหนอิกบ้างค่ะ อยากสอบถามเพิ่มเติมจะเอาความรู้ข้อมูลจากครูป้าไปบอกต่อคนที่หมู่บ้าน ตจว ค่ะ


สุดท้ายย ต้องขอบคุณครูป้ามากๆๆ จริงๆ กับข้อมูลดีแบบนี้  


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1407678728

ตอบคุณภัทรินท์  ติดต่อครูป้า 081 3468849 นอกเวลาราชการ จะสะดวกที่สุด



Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : Date : 1407901929

ดีออก



Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ตี้ Date : 1408950450

ขอโทษน่ะค่ะ มีขายน้ำหมักชีวภาพมะกรูดมั้ยค่ะ


ช่วยตอบกลับด้วยน่ะค่ะ



Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1409326214

ตอบคุณตี้
      ครูป้าไม่ได้ทำน้ำหมักเพื่อการค้าค่ะ  เมื่อมีวัตถุดิบซึ่งเป็นผลผลิตในบ้านก็ทยอยนำมาทำน้ำหมักไปเรื่อยๆ ทำไว้ใช้เองค่ะ  แต่พอจะมีมีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง เห็นว่าดี มีประโยชน์มากก็เลยอยากจะเผยแพร่ต่อค่ะ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : KOng Date : 1416714325

หน้าสนใจ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : BIG Date : 1416714853

ดีมาก


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ้kl Date : 1416714955

ยินดี


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : Date : 1420950233

เปลือกส้มนี่อยู่ในประเภทผลไม้รสฝาดรึป่าวคะ?


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : แพท Date : 1420950308

เปลือกส้มนี่อยู่ในประเภทผลไม้รสฝาดรึป่าวคะ?


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : Name Date : 1422500082

ตอบคุณแพท
        น้ำหมักจากเปลือกส้มเหมาะที่จะใช้ทำความสะอาดมากกว่า เคยหมักเปลือกส้มที่ได้จากการปอก(ไม่มีเนื้อติด) จะได้ค่า pH ประมาณ 3 และมีกลิ่นหอมจากน้ำมันเปลือกส้ม


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : Date : 1437469585

อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหมักสับปะรดค่ะ ดิฉันหมักมาได้สามปีกว่าแล้วค่ะแต่ยังมีเชื้อราสีนวลอยู่ที่ด้านบนของน้ำหมักเต็มไปหมด เป็นทุกถังที่หมักค่ะและไม่เป็นวุ้น ถังที่ใช้หมักเป็นถังแกลลอนมีฝาปิด แต่น้ำหมักผลไม้ชนิดอื่นๆที่ทำไว้ไม่เป็นแบบนี้ค่ะมีแต่วุ้นกับน้ำหมักเท่านั้น..สงสัยมานานช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ


Reply : การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้/ผลไม้ลดโลกร้อน By : ครูป้า Date : 1440510792

ตอบข้อสงสัยของคุณไม่ทราบชื่อ...เรื่องน้ำหมักสับปะรด (ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะคะที่ตอบช้ามากๆ)


    ถามว่า ทำน้ำหมักสับปะรด หมักมาได้สามปีกว่าแล้วแต่ยังมีเชื้อราสีนวลอยู่ที่ด้านบนของน้ำหมักเต็มไปหมด เป็นทุกถังที่หมักและไม่เป็นวุ้น 
    ตอบ  นั่นเป็นปกติของน้ำหมักสับปะรดที่จะไม่เกิดวุ้น แต่
จะเป็นผงสีนวลๆ (ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเชื้อยีสต์) ถ้าไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าก็ไม่เสียค่ะ จากที่เคยทำน้ำหมักมา  น้ำหมักมะเฟืองจะเป็นวุ้นมากที่สุด และสับปะรดจะเป็นผงสีนวลๆมากที่สุด