หลายคนคงทราบว่าน้ำมันที่ใช้ทอดอาหารแล้วสามารถนำไปทำเป็นไบโอดีเซลได้ แต่ในครัวเรือนส่วนใหญ่ คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์จากไบโอดีเซลมากนัก หรือถ้าจะทำจริงๆก็ต้องศึกษาข้อมูลกันอีกมาก หลายๆครัวเรือนจึงมักจะเทน้ำมันที่ใช้ทำอาหารแล้วทิ้งลงในท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นการสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อมโดยไม่รู้ตัว
และคุณคงคิดไม่ถึงใช่ไหมว่าน้ำมันที่เคยใช้ทอดอาหารมาแล้วนั้นสามารถนำมาทำสบู่ได้ด้วย ไม่ใช่สบู่สำหรับทำความสะอาดร่างกายนะ แต่เป็นสบู่ที่ใช้สำหรับขัดล้างทำความสะอาดวัสดุที่ทำจากโลหะ ประเภทอลูมิเนียม และทองเหลือง ที่มีประสิทธิภาพเยี่ยมยอด ที่ใช้คำนี้เพราะว่าคุณสมบัติเด่นของสบู่นี้คือ ทำจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ทำไม่ยากนัก ใช้งานง่าย เบาแรงขัด ประหยัดรายจ่าย ไม่กัดมือ และซอกเล็บมือของคนขัดก็ไม่มีคราบดำฝังแน่น ภาชนะที่ขัดด้วยสบู่นี้จะสะอาดเงาแวววาว (แต่กลิ่นของสบู่นี้ จะไม่หอมหวลยวนใจเหมือนกับสบู่ถูตัวนะ) ซึ่งจากสรรพคุณที่กล่าวมาคงจะทำให้คุณพ่อบ้าน-คุณแม่บ้านที่รักความสะอาดและชอบความเงาแวววาวคงจะมีความสุขเพิ่มขึ้นมาบ้าง เพราะทั้งประหยัดเงินในกระเป๋าและประหยัดแรง เรามาเริ่มเลยดีกว่า ก่อนอื่นก็ต้องฟื้นความรู้วิชาเคมีพื้นฐานก่อน เตรียมส่วนผสมและเครื่องมือให้พร้อม ดังนี้
ส่วนผสม
1.น้ำมันที่เหลือจากการทอดอาหารแล้ว(ตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน รินเฉพาะส่วนที่ใสมาใช้) 1.5 กก.
2.ผลึกโซดา (เรียกอีกอย่างว่า โซดาไฟ) 185 กรัม
3.น้ำสะอาด (ถ้าเป็นน้ำฝน จะยิ่งดี ฟองมาก) 600 กรัม
4.น้ำหมักชีวภาพมะกรูด(หรือน้ำมะกรูด) 1/2 ถ้วยตวง
5.บอแรกซ์ป่นละเอียด(ช่วยเพิ่มฟอง ถ้าไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้) 2 ช้อนโต๊ะ
(หมายเหตุ อ่านข้อมูลเรื่องน้ำหมักชีวภาพมะกรูดเพิ่มเติมได้ใน"ผลไม้ลดโลกร้อน")
อุปกรณ์ที่จำเป็น ได้แก่
1.กาละมังพลาสติก ชนิดก้นเรียบ จำนวน 2 ใบ
2.เครื่องชั่งขนาดเล็ก(ขนาด 1-2 กิโลกรัม)
3.แก้วน้ำพลาสติกชนิดมีหูจับ
4.ถ้วยตวงน้ำ - ช้อนตวง
5.พายไม้ หรือพายพลาสติก
6.ถุงมือยาง
7.พิมพ์ (กล่องพลาสติกทรงเตี้ยและกว้าง หรือกล่องบรรจุไอกรีม ,กล่องอาหารสำเร็จรูป ที่ใช้แล้วก็ได้ เตรียมไว้ 3-4 กล่อง)
วิธีทำ
1. เตรียมส่วนผสม และอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นให้ครบ และถ้าทำบริเวณที่โล่งจะดีกว่าทำในห้อง
2. แต่งกายด้วยชุดที่รัดกุม สวมถุงมือยาง (ถ้าสวมแว่นตาและหาหน้ากากผ้าปิดปาก-จมูก ก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น )
3. ชั่งน้ำเท่าที่กำหนดใส่ในกาละมังใบที่ 1
4. ชั่งโซดาไฟ ตามปริมาณที่กำหนด (ชั่งใส่แก้วน้ำพลาสติกชนิดมีหูจับ)
5. ค่อยๆเทโซดาไฟลงในน้ำอย่างเบามือ ระวังอย่าให้กระเด็น (โซดาไฟเป็นด่างชนิดเข้มข้น เป็นอันตรายมากต่อผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ ห้ามเทน้ำลงในโซดาไฟโดยเด็ดขาด และอย่ายื่นหน้าไปใกล้ๆภาชนะ) แล้วใช้พายคนให้โซดาไฟละลายจนหมด(น้ำจะร้อนขึ้นมาก) จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้น้ำด่างมีอุณหภูมิลดลงเกือบเท่าอุณหภูมิห้อง น้ำที่ได้นี้เรียกว่า “น้ำด่าง”
6. ชั่งน้ำมันปริมาณเท่าที่กำหนด ใส่ในกาละมังใบที่ 2 จากนั้นค่อยๆเทน้ำด่าง(จากข้อ 5)ลงในน้ำมัน พร้อมกับใช้พายคนเบาๆไปในทางเดียวกัน เมื่อเทน้ำด่างหมดแล้ว ให้คนแรง ๆ 15 นาที พัก 5 นาที สลับกันไป พร้อมกับเติมน้ำหมักชีวภาพมะกรูดและผงบอแรกซ์ที่บดละเอียดแล้ว
7. คนนานประมาณ 30 นาที หรือจนส่วนผสมข้นมากและสีขุ่นขึ้น(จะคล้ายกับนมขนหวาน) จึงเทส่วนผสมสบู่ลงในกล่องพลาสติก
8. ยกกล่องไปวางในที่พ้นมือเด็ก วางไว้นิ่ง ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ สบู่จะเริ่มแข็งตัว แต่ต้องพักไว้ประมาณ 1 เดือน จึงจะนำมาใช้ได้เพื่อให้ส่วนผสมทำปฏิกิริยากันสมบูรณ์ดี (ถ้าใช้ก่อนหน้านี้สบู่จะกัดมือ)
จากสูตรนี้ จะได้สบู่ประมาณ 2 กิโลกรัม ถ้าเป็นครอบครัวเล็กๆ ก็อาจใช้นานเป็นปีเลยทีเดียว วิธีใช้ก็เพียงนำภาชนะจุ่มน้ำให้เปียก นำฝอยขัดหม้อไปจุ่มน้ำให้เปียกแล้วนำมาถูกับเนื้อสบู่ ขัดถูบริเวณคราบสกปรก จากนั้นล้างฟองสบู่ด้วยน้ำให้สะอาด เพียงเท่านี้ภาชนะก็จะสะอาด เงาแวววาว