ไม่ทราบว่ามีใครเก็บสถิติจำนวนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแมลงวันผลไม้ไว้บ้างหรือไม่ แต่ยืนยันได้เลยว่า ตั้งแต่คนระดับรากหญ้าไปจนถึงหน่วยงานเกี่ยวกับการค้าระดับโลก ต้องแบ่งสมองส่วนหนึ่งมาขบคิดหาวิธีการที่จะจัดการกับปัญหาที่มันก่อไว้ ผู้ส่งผลไม้ออกไปขายต่างประเทศต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงขึ้น ชาวสวนผลไม้ทุกคนต้องคิดหาวิธีการแก้ปัญหาที่มันทำให้ผลผลิตเสียหาย และคนที่ชอบรับประทานผลไม้ทุกคนจะต้องเคยสบตากับมันก่อนที่จะโยนผลไม้นั้นทิ้งด้วยความเสียดาย ก็เจ้าหนอนตัวเล็กๆ สีขาว ที่ชอบเดินดุ๊บดิ๊บ ๆในผลไม้ที่เรากำลังจะนำเข้าปากนั่นไง ผลไม้ที่พบหนอนบ่อยๆก็เช่น เงาะ มะม่วง กล้วย มะละกอ พุทรา ฝรั่ง มะยม ชมพู่ น้อยหน่า ขนุน มะเฟือง เชอรี่ ฯลฯ เจ้าหนอนน้อยนั่นแหละมันคือลูกหลานของแมลงวันผลไม้ คนส่วนใหญ่พอเห็นหน้าเจ้าหนอนน้อยแสนซนก็มักจะรังเกียจ ขยะแขยง รีบโยนผลไม้นั้นทิ้งทันที (แต่มีเพื่อนรุ่นน้องของครูป้าคนหนึ่ง ชอบกินพุทราไทยที่มีหนอน บอกว่าเป็นพุทราเสริมโปรตีน รสเค็มๆมันๆ อร่อยดี) รู้หรือไม่ว่าการที่เราโยนผลไม้ที่มีหนอนทิ้งลงไปบนดิน ยิ่งเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณประชากรหนอนในผลไม้ให้มีมากขึ้น ฉะนั้น ก่อนที่เราจะไปปราบมัน เราต้องมาทำความรู้จักมันให้ดีเสียก่อน
แมลงวันผลไม้
หรือบางคนเรียกว่าแมลงวันทอง เป็นแมลงตัวเล็กๆ มีรูปร่างและขนาดใกล้เคียงกับแมลงวันบ้าน ส่วนหัว อก และลำตัว สีน้ำตาลอมเหลือง มีแถบสีเหลืองทองเห็นเด่นชัด พาดที่หลัง อกปล้องแรก และด้านข้างลำตัว มีปีกบางใส บินเร็ว ที่ท้องปล้องสุดท้ายของเพศผู้จะมีปลายมน แต่ของเพศเมียจะมีอวัยวะวางไข่เรียวแหลมเห็นชัดเจน
ขอบคุณภาพประกอบจาก kaewpanya.rmutl.ac.th และ thaimisc.pukpik.com
การทำลายผลไม้
ในประเทศไทย จะพบแมลงวันผลไม้ตลอดทั้งปี (เพราะมันกินผลไม้ได้หลายชนิด และในประเทศไทยก็มีผลไม้สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้มันเลือกกินได้ตลอดทั้งปี) แต่จะพบระบาดมากที่สุดในช่วงฤดูฝน หลังจากผสมพันธุ์แล้วเพศเมียจะใช้อวัยวะวางไข่ที่เรียวแหลมเจาะเข้าไปในผลไม้ก่อนที่ผลไม้จะแก่ แล้ววางไข่ทิ้งไว้ เมื่อผลไม้สุก แก๊สอะเซทิลีนในผลไม้สุกก็จะไปเร่งให้ไข่ฟักเป็นตัวหนอน ตัวหนอนจะมีสีขาวนวล หัวสีดำ อาศัยกัดกินชอนไชอยู่ภายผลไม้ เมื่อโตเต็มที่ตัวจะยาวประมาณ 1 เซนติเมตร อายุของหนอน จะประมาณ 7-8 วัน จากนั้นมันจะดีดตัวลงไปเข้าดักแด้ในดิน ลึกไม่เกิน 30 เซนติเมตร (เพราะฉะนั้น การโยนผลไม้ที่มีหนอนทิ้งลงดิน หรือการปล่อยให้ผลไม้ที่ร่วงหล่นอยู่ใต้ต้นเน่าเปื่อยไปเอง เป็นการส่งเสริมให้ครบวงจรชีวิตได้ง่ายขึ้น ) ดักแด้จะมีอายุประมาณ 7-9 วัน พอถึงเวลามันก็กลายร่างมาเป็นตัวเต็มวัย คือ แมลงวันผลไม้ และมันจะเริ่มผสมพันธุ์ครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 5 วัน ทั้งเพศผู้และเพศเมียจะผสมพันธุ์กันได้หลายครั้ง เพศเมียจะเริ่มวางไข่เมื่ออายุประมาณ 9-12 วัน วางไข่ครั้งละประมาณ 200 ฟอง และตลอดชีวิตของเพศเมียหนึ่งตัวจะวางไข่ได้ไม่น้อยกว่า 1,300 ฟอง วงจรชีวิตจากไข่ถึงตัวเต็มวัย ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ฉะนั้นในปีหนึ่งๆแมลงวันผลไม้ 1 คู่ จะให้กำเนิดทายาทได้ไม่น้อยกว่า 12 รุ่น
ถ้ากำจัดแมลงวันผลไม้ เพียงลำพังบ้านเดียวหรือสวนเดียวจะไม่ได้ผล เพราะตัวเต็มวัยมีปีก มันจะบินหากินในพื้นที่กว้างไกลเป็นกิโลเมตร ถึงเราจะกำจัดแมลงในเขตพื้นที่ของเราได้ แต่แมลงวันผลไม้จากเขตของเพื่อนบ้านก็จะบินเข้ามาในพื้นที่ของเราอีก ถ้าจะให้ได้ผลต้องร่วมมือร่วมใจกันทำ หลายๆบ้านหลายๆสวน และทำอย่างสม่ำเสมอ ส่วนวิธีการป้องกันไม่ให้แมลงเจาะทำลายผลไม้ ที่นิยมก็คือการห่อผล แต่เป็นวิธีที่ใช้แรงงานและต้นทุนมาก ถ้าผลไม้มีราคาดีก็จะเป็นแรงจูงใจให้ขยันห่อผล เหมาะกับผลไม้ผลใหญ่ๆ และที่อยู่ต่ำๆก็ห่อง่ายหน่อย แต่ถ้ามีผลไม้ปริมาณมากหรือเป็นผลขนาดเล็กๆ หรืออยู่สูง ๆ วิธีนี้ก็ไม่เหมาะสม
การป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ให้ได้ผล
ต้องใช้หลายๆวิธี และต้องทำร่วมกันหลายๆบ้าน หลายๆสวน และทำสม่ำเสมอ เลือกปฏิบัติตามความสะดวกก็แล้วกัน
วิธีที่ 1 ทำลายไข่และตัวหนอน
ด้วยการเก็บกวาดผลไม้ที่ถูกแมลงวันผลไม้เจาะ(ทั้งบนต้นและที่ร่วงอยู่ใต้ต้น)ไปทำลายทิ้ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพบตัวหนอนในผลไม้ที่หล่นเกลื่อนอยู่ตามใต้ต้น ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้ก็จะเป็นการส่งเสริมให้วงจรชีวิตของแมลงวันผลไม้สมบูรณ์ เพราะไข่จะฟักเป็นตัวหนอน หนอนในผลไม้ที่โตเต็มที่มันจะดีดตัวออกมาเข้าดักแด้ในดิน และไม่ควรกวาดผลไม้ไปกองรวมกันไว้เฉยๆโดยไม่ทำลาย การทำลายผลไม้ที่ถูกแมลงเจาะ ทำได้หลายวิธี เช่น เผา หรือขุดหลุมฝัง(ต้องกลบดินให้ลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร หนอนถึงจะตาย) แต่ขอแนะนำให้ใช้วิธีที่เป็นประโยชน์มากกว่า คือนำผลไม้นั้นไปทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ(อ่านข้อมูลได้จากหัวข้อน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้)
วิธีที่ 2 ห่อหุ้มผลไม้เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงเข้าเจาะทำลาย
ถ้าจะให้ได้ผลต้องห่อตั้งแต่ยังเป็นผลอ่อนๆ ใช้กระดาษที่หนาและเหนียวพอควรทำเป็นถุง หรือใช้ถุงพลาสติก ที่ก้นถุงจะต้องเจาะรูเล็กๆเพื่อระบายอากาศหรือให้ไอน้ำระเหยออกไป ผลไม้จะไม่เปียกชื้น ไม่เป็นเชื้อราง่าย หรือจะลงทุนซื้อถุงที่ผลิตขึ้นมาเพื่อห่อผลไม้โดยเฉพาะก็ดีแต่ต้นทุนสูง
วิธีที่ 3 กำจัดตัวเต็มวัยของแมลงวันผลไม้ทำได้หลายวิธี ได้แก่
1. ล่อแมลงเพศผู้ให้มาติดกับดัก แล้วทำลายทิ้ง
มีหลักการง่ายๆคือใช้กลิ่นฮอร์โมนของเพศเมียล่อให้เพศผู้เข้ามาติดกับดัก กับดักล่อแมลงนี้ทำได้หลายแบบ เช่น
- ปลูกต้นเดหลีใบกล้วย เมื่อดอกเดหลีบาน จะส่งกลิ่นดึงดูดแมลงวันผลไม้เพศผู้ให้มาตอมเกสร
- ทำกับดัก โดยนำขวดพลาสติกใสมาเจาะรูเล็กๆ 2-3 รู ขนาดที่แมลงวันผลไม้จะลอดเข้าไปได้ แต่ลอดออกไม่ได้ แล้วใช้สารเมทธิลยูจีนอลหยดใส่สำลี หรือใช้ใบและดอกกระเพรามาขยี้ให้ช้ำใส่ไว้ในขวด ติดตั้งไว้ในสวนหลายๆจุด เมทธิลยูจีนอลหรือใบกระเพราจะส่งกลิ่นคล้ายกลิ่นฮอร์โมนของแมลงวันผลไม้เพศเมีย ล่อให้เพศผู้เข้ามาติดในกับดัก จึงจับไปทำลาย แต่วิธีนี้จะต้องหมั่นตรวจกับดักบ่อยๆ และหมั่นเปลี่ยนใบกระเพรา
- ใช้สารเมทธิลยูจีนอล ผสมยาฆ่าแมลง (พวกนาเลท มาลาไธออน หรือเฟนนิโตรไธออน) หยดใส่สำลี แล้ววางไว้ในกับดัก จากนั้นวางกับดักไว้บริเวณกลางทรงพุ่มของต้นไม้ ห่างกันจุดละประมาณ 10-20 เมตร เมื่อแมลงวันผลไม้เพศผู้เข้ามาในกับดักก็จะตาย วิธีนี้ต้องหมั่นเติมเมทธิลยูจีนอล และยาฆ่าแมลงทุกสัปดาห์
แต่การดักจับแมลงวันผลไม้เพศผู้ ทั้ง 3 วิธีนี้ ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องใช้ร่วมกับการดักทำลายแมลงวันผลไม้เพศเมีย ที่อาจบินตามแมลงวันทองหนุ่มๆเข้ามาในสวนของเรา ซึ่งมันมีโอกาสที่จะผสมพันธุ์กันก่อนที่ตัวผู้จะเข้ามาติดกับดัก ด้วยการใช้ไม้ตีแมลงวันหรือไม้ตียุงที่มีขายในท้องตลาด มาตีแมลงที่มาตอมดอกเดหลี ทำวันละประมาณ 1 ชั่วโมง ทำวันเว้นวัน หรือ ใช้กับดักกาวเหนียว (ทำจากแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด สีเหลือง ทากาวเหนียว แล้วไปแขวนใกล้ๆกับดัก ให้แมลงบินมาติด)
ไปอ่านข้อมูลใน www.Gardengolden.com ได้แนะนำวิธีการกำจัดแมลงวันผลไม้แบบชีวภาพว่าให้นำขวดน้ำพลาสติกใสมาเจาะรูขนาดประมาณ 1 นิ้ว บริเวณด้านบนๆของขวด หลายๆรู แล้วใส่น้ำสะอาดลงไปประมาณ 1 ส่วน 3 ของขวด ใส่เมล็ดถัวพูแก่ ประมาณ 1 กำมือ ลงในน้ำ ทิ้งไว้ 3 วัน ให้เมล็ดถัวพูเน่า เมื่อครบ 3 วัน ให้นำดอกกระเพรามาทุบให้ช้ำๆจะส่งกลิ่นออกมา หรือใช้ผลไม้สุก(ต่างชนิดกับที่ปลูกในสวน) ใส่ลงไปในขวด แล้วนำขวดไปแขวนในสวน แมลงวันผลไม้จะเข้ามาตอม เมื่อมันลงไปกินน้ำถั่วพูเน่า มันจะทนกับสภาพแวดล้อมไม่ได้ ทำให้ตายในที่สุด ใครสนใจวิธีนี้ก็ลองทำนะคะ
2. ล่อให้แมลงตัวเต็มวัยมาตอมเหยื่อพิษ เมื่อแมลงมาตอมก็จะตาย ทำได้ 2 แบบ คือ
- นำผลไม้ที่ถูกแมลงวันผลไม้ทำลายมากองรวมกันไว้เป็นจุดๆ (ยิ่งเป็นผลไม้สุกงอม ส่งกลิ่นฟุ้ง ยิ่งดี) แล้วใช้ยาฆ่าแมลงชนิดถูกตัวตาย เช่น ไบกอน 20 กรัม ผสมน้ำ 1 ลิตร มาฉีดพ่นบนกองผลไม้ให้ทั่ว
- ใช้ยีสต์โปรตีนไฮโดรไลซีส 20 กรัม น้ำตาลอ้อย 20 กรัม มาลาไธออน 83 % อัตรา 12 ซี.ซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ผสมกัน แล้วฉีดพ่นไว้ตามใบพืชเป็นจุดๆ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
วิธีที่ 4 ทำหมันแมลงขณะเป็นดักแด้
(แต่วิธีนี้ไม่ง่าย และไม่เหมาะกับเกษตรกรทั่วๆไปค่ะ) โดยนำดักแด้ของแมลงวันผลไม้ไปฉายรังสีแกมมาให้เป็นหมัน เมื่อมันโตเป็นตัวเต็มวัยก็ปล่อยไปในธรรมชาติ ให้ไปผสมพันธุ์กับแมลงวันผลไม้ในธรรมชาติตามปกติ แต่มันจะไม่สามารถขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณได้ ปริมาณแมลงวันผลไม้ในธรรมชาติก็จะค่อยๆลดลง